ญาติวอนช่วย 5 เยาวชนไทย ถูกหลอกทำงานบ่อนเขมร ทุกข์ระทมถูกเฆี่ยน-ทรมาน

“5 เยาวชน” จ.ตราด ถูกหลอกไปทำงาน ในบ่อนออนไลน์เขมร ญาติเผยแอบติดต่อกลับมาเล่าความระทม บอกถูกบังคับทำยอด ต่ำเป้าถูกทรมาน-เฆี่ยนตี ญาติบอกตอนนี้ถูกส่งไป “สีหนุวิลล์” 2 ส่วนอีก 3 มุ่งหน้าเกาะกง วอนฝ่ายไทยเร่งประสานกัมพูชาช่วยเหลือด้วย   

จากกรณี 5 เยาวชน ในพื้นที่ ต.หนองบอน อ.บ่อไร่ จ.ตราด ถูกหลอกไปทำงานในบ่อน ที่ประเทศกัมพูชา เมื่อวันที่ 1 พ.ย.ผ่านมา โดยแอบติดต่อกลับมาบอกญาติที่ไทยเป็นครั้งคราว เพื่อบอกเล่าเรื่องราวให้ฟังถ้ามีโอกาส ซึ่งญาติๆ รู้สึกเป็นห่วง และไม่รู้ชะตากรรมว่าทั้งหมดเป็นอย่างไรบ้าง 

ล่าสุดเมื่อวันที่ 24 พ.ย.64 ผู้สื่อข่าวได้เดินทางไปที่บ้านเลขที่ 247/3 ม.2 ต.หนองบอน อ.บ่อไร่ จ.ตราด เพื่อพบกับ น.ส.นิเดีย วัลลา และ น.ส.อินทิรา วัลลา 2 พี่น้อง ซึ่งเป็นญาติของหนึ่งในผู้ถูกหลอกไปทำงานในบ่อน ที่กัมพูชา เพื่อสอบถามข้อมูลถึงกรณีดังกล่าว 

โดย 2 สาว เล่าให้ฟังว่า เมื่อวันที่ 1 พ.ย.ที่ผ่านมา น.ส.ปานตะวัน บุญส่ง อายุ 23 ปี ชาว จ.จันทบุรี ได้มาชักชวน น.ส.ปริศณา พิมพ์ทอง อายุ 16 ปี, นายหัชธชัย วัลลา อายุ 18 ปี, นายอิศเรศ อัครา อายุ 18 ปี, นายกฤตภาส สุวรรณกุล อายุ 21 ปี และ นายมนต์ตระการ นาเอก ไม่ทราบอายุ ซึ่งทั้งหมดเป็นชาว ต.หนองบอน ให้เดินทางไปทำงานในบ่อนพนันออนไลน์ ที่ประเทศกัมพูชา โดยเดินทางเข้ากัมพูชาผ่านจุดผ่านแดน จ.สระแก้ว เมื่อไปถึงก็ถูกกักตัว 14 วัน เพื่อดูอาการโควิดฯ หลังจากนั้นวันที่ 15 พ.ย.64 ก็ให้เริ่มทำงานในบ่อน 

2 สาว เล่าต่อว่า หลังเริ่มทำงานได้ไม่กี่วัน นายหัชธชัย และ นายกฤตภาส ก็ไปมีเรื่องชกต่อยกับพนักงานที่ทำงานอยู่ก่อนแล้ว จึงถูกแยกตัวไปกักขังที่อื่น พร้อมทั้งถูกยึดโทรศัพท์ ถ้าทั้ง 2 จะใช้ต้องเสียเงินครั้งละ 5,000 บาท ส่วนอีก 3 คน ได้แก่ นายอิศเรศ, นายมนต์ตระการ, และ น.ส.ปริศณา ถูกแยกออกไปทำงานอีกที่หนึ่ง และกักขังไว้ในห้องพักที่ไม่รู้พิกัด ซึ่งทั้ง 3 จะแอบใช้เฟซบุ๊กติดต่อทางญาติเป็นครั้งคราวเท่านั้น อีกทั้งจะแอบใช้เฟซบุ๊กส่งโลเคชัน และแชตข้อความมาเป็นบางครั้งถ้ามีโอกาส ตอนนี้จึงไม่มีใครรู้ว่าชะตากรรมทั้ง 5 คนเป็นอย่างไรบ้าง

“ทั้ง 5 คน จะถูกบังคับให้ทำยอดพนันออนไลน์ให้ได้สัปดาห์ละ 1 ล้านบาท หากใครทำไม่ได้ตามเป้า ก็จะถูกทำโทษด้วยการเฆี่ยนตีและทรมาน โดยผู้ควบคุมจะเป็นชาวจีนที่มาทำบ่อนออนไลน์อยู่ในกัมพูชา” 2 สาว ระบุ

2 สาวเล่าต่อว่า การติดต่อทางโทรศัพท์ จะติดต่อได้บ้างไม่ได้บ้าง บางครั้งไม่รู้เสียงใคร เหมือนแกล้งหลอกให้รู้ว่าปลอดภัย แต่ความจริงไม่ใช่ ความคืบหน้าล่าสุด นายหัชธชัย และนายกฤตภาส ถูกนำตัวขึ้นรถมุ่งหน้าไปสีหนุวิลล์ ส่วน นายมนต์ตระการ, นายอิศเรศ, และ น.ส.ปริศณา ถูกนำตัวมุ่งหน้าไปยัง จ.เกาะกง ซึ่งเป็นการลักลอบติดต่อกันได้เป็นช่วงๆ เท่านั้น ตอนนี้จึงต้องการให้ฝ่ายไทยเร่งติดต่อฝ่ายกัมพูชา ในการติดตามเยาวชนทั้ง 5 คนกลับมาให้ได้โดยด่วน

ที่มา : https://www.thairath.co.th/