ข่าวดี วัคซีน “ChulaCov19” ชนิด mRNA เตรียมวิจัยในคนระยะแรก พ.ค.นี้

“อนุทิน” ร่วมแถลงข่าวดี พร้อมสนับสนุนพัฒนาวัคซีน “ChulaCov19” ชนิด mRNA ของคณะแพทยศาสตร์ จุฬาฯ เผยความคืบหน้าเตรียมวิจัยในคนระยะที่ 1 พ.ค.นี้
วันที่ 18 ก.พ. 2564 นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข พร้อมด้วย ศ.นพ.สุทธิพงศ์ วัชรสินธุ ผู้อำนวยการโรงพยาบาลจุฬาลงกรณ์ และคณบดีคณะแพทยศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ศ.นพ.เกียรติ รักษ์รุ่งธรรม ผู้อำนวยการบริหารโครงการพัฒนาวัคซีนโควิด-19 ศูนย์วิจัยวัคซีน คณะแพทยศาสตร์ จุฬาฯ และ นพ.นคร เปรมศรี ผู้อำนวยการสถาบันวัคซีนแห่งชาติ ร่วมแถลงข่าวความก้าวหน้าของการพัฒนาวัคซีนป้องกันโควิด-19 “ChulaCov19” ของคณะแพทยศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ที่โรงพยาบาลจุฬาลงกรณ์ สภากาชาดไทย


นายอนุทิน กล่าวว่า รัฐบาลพร้อมสนับสนุนการวิจัยวัคซีนป้องกันโรคโควิด-19 ของทีมไทยแลนด์ ซึ่งเป็นที่น่ายินดีและขอเป็นกำลังใจให้โครงการพัฒนาวัคซีนโควิด-19 ของคณะแพทยศาสตร์ จุฬาฯ หรือ “ChulaCov19” ที่ขณะนี้มีความก้าวหน้าอย่างมาก จะช่วยเสริมฐานที่แข็งแกร่งของระบบสาธารณสุขให้มั่นคงมากยิ่งขึ้น พึ่งพาตนเองได้ อย่างไรก็ตาม ระหว่างรอความสำเร็จที่เชื่อมั่นว่าจะเกิดขึ้นแน่นอน รัฐบาลไทยได้จัดหาวัคซีนโควิด-19 จำนวน 63 ล้านโดส ฉีดสร้างภูมิคุ้มกันโรคให้กับประชาชน ที่ผ่านมาเรามีศักยภาพสามารถผลิตหน้ากากอนามัย ชุด PPE น้ำยาตรวจหาเชื้อได้เอง รวมทั้งมีความพร้อมเรื่องเตียง โรงพยาบาล โรงพยาบาลสนาม ยารักษา อย่างเพียงพอและมีความมั่นคง หวังว่าวัคซีน ChulaCov19 จะมาช่วยเสริมการป้องกันควบคุมและรักษาโรคโควิด-19 ของประเทศให้สมบูรณ์ครบวงจร
“ขณะนี้ตลาดวัคซีนเป็นของผู้ขาย ถ้าจะให้ได้วัคซีนต้องจ่ายเงิน ต้องซื้อตามที่เขากำหนด ดังนั้นประเทศไทยต้องพึ่งพาตนเองให้ได้ โดยโครงการพัฒนาวิจัยวัคซีนโควิด-19 ของจุฬาฯ ใกล้ความสำเร็จ และเราพร้อมสนับสนุนทุกโครงการพัฒนาวัคซีนของประเทศด้วยเช่นกัน ซึ่งจะทำให้เกิดความมั่นคงของระบบสุขภาพไทยในอนาคต”


ทั้งนี้ วัคซีน ChulaCov19 เป็นวัคซีนชนิด mRNA ที่มีความก้าวหน้า สามารถป้องกันและลดจำนวนเชื้อได้อย่างมากในหนูทดลอง และเก็บรักษาในอุณหภูมิตู้เย็นปกติ 2-8 องศาเซลเซียสได้อย่างน้อย 1 เดือน ส่วนการเก็บวัคซีนให้ได้ระยะ 3 เดือนอยู่ระหว่างรอผลการวิจัย ซึ่งเป็นระยะที่เหมาะสมต่อการขนส่งและกระจายวัคซีน คาดว่าจะได้รับวัคซีนต้นแบบนำมาทดสอบในอาสาสมัครได้ประมาณต้นเดือน พ.ค.นี้ และเตรียมพัฒนาวัคซีนรุ่นที่ 2 เพื่อรองรับเชื้อกลายพันธุ์ในอนาคต.

ที่มา : https://www.thairath.co.th/