106 ปีทีมชาติไทย

ได้เห็นโฉมหน้ากันไปแล้วล่ะครับ!! สำหรับขุนพลนักเตะทีมชาติไทยที่กุนซือ มาโน โพลกิง ประกาศเรียกตัวไปบู๊ศึกลูกหนังชิงเจ้าอาเซียน “เอเอฟเอฟ ซูซูกิคัพ 2020” ที่แดนลอดช่อง สิงคโปร์

ถูกใจกันหรือไม่? แบบไหน…อย่างไร ก็ลองพิจารณากันดู แต่เชื่อว่าโค้ชมาโนได้เรียกตัวผู้เล่นที่เค้าคิดว่ามีดีพอที่จะทำให้ทีมช้างศึกกลับไปทวงแชมป์อาเซียนกลับมาอีกครั้งให้จงได้

พูดถึง “ทีมฟุตบอลชาติไทย” ก็เลยนึกขึ้นมาได้ว่าเมื่อ วันเสาร์ที่ 20 พฤศจิกายน ที่ผ่านมา เป็นวัน ครบรอบ 106 ปีของการก่อตั้ง “ทีมชาติสยาม” หรือทีมลูกหนังชาติไทยชุดแรก เพื่อแข่งขันกับ “ทีมชาวยุโรป”

ซึ่งจากข้อมูลของทาง สมาคมประวัติศาสตร์ฟุตบอลแห่งประเทศไทย (สปท.) ระบุว่า ตราแรกสุดของทีมชาติไทย คือ “ตราพระมหามงกุฎ” รัชกาล ที่ 6 องค์บิดาแห่งฟุตบอลสยาม ทรงโปรดเกล้าฯ พระราชทานให้เป็นเกียรติยศการรักชาติของทีมชาติสยาม

เมื่อวันที่ 20 พฤศจิกายน 2458 ณ สนามสามัคยาจารย์สมาคม (สนามฟุตบอลภายในโรงเรียนสวนกุหลาบวิทยาลัย) นับเป็นการแข่งขันระหว่างชาติครั้งแรก ซึ่งจัดขึ้นเนื่องในพิธีเปิดอาคารหลังใหม่ของ “ราชกรีฑาสโมสร” และในวันที่ทำการแข่งขันนั้น รัชกาลที่ 6 ได้เสด็จฯไปเป็นประธานการแข่งขันด้วยพระองค์เอง

ผลปรากฏว่า “ทีมชาติสยาม” สามารถเอาชนะ “ทีมสปอร์ตคลับ” หรือ “ทีมชาวยุโรป” ได้ 2-1 ส่งผลให้ราษฎรสนใจเล่นฟุตบอลมากขึ้น เนื่องจากคนสยาม สามารถเอาชนะคนตะวันตกได้ด้วยกีฬาสากล

ต่อมารัชกาลที่ 6 จึงทรงสถาปนา “สมาคมฟุตบอล แห่งประเทศสยาม ในพระบรมราชูปถัมภ์” ขึ้นเมื่อ 25 เมษายน 2459 หรือหนึ่งปีภายหลังชัยชนะครั้งแรกของ “ทีมชาติสยาม”

สำหรับนักฟุตบอลทีมชาติไทยชุดแรก ประกอบด้วย ตำแหน่งแนวหน้า หม่อมเจ้าสิทธิพร กฤดากร, นายชอบ หังสสูต, นายโชติ ยูปานนท์, นายศรีนวล มโนหรทัต, นายจรูญ รัตโนดม ตำแหน่งแนวหนุน นายตาด เสตะกสิกร, นายกิมฮวด วณิชยจินดา ตำแหน่งแนวหลัง นายแถม ประภาสะวัต, นายต๋อ ศุกระศร, นายภูหิน สถาวรวณิช และตำแหน่งคนรักษาประตู นายอิน สถิตยวณิช

ส่วนนักฟุตบอลผู้ยิงประตูแรกสุดของทีมชาติสยาม คือ นายศรีนวล (วัฒน์) มโนหรทัต จากสโมสรราชแพทยาลัย ซึ่งติดทีมชาติ ระหว่าง พ.ศ.2458-2460

และในวาระครบรอบ 106 ปี ทีมชาติสยาม สมาคมประวัติศาสตร์ฟุตบอลแห่งประเทศไทย โดยนายกสมาคม นายจิรัฏฐ์ จันทะเสน พร้อมคณะกรรมการบริหาร ได้มีมติเห็นชอบให้ดำเนินการสร้างพระบรมราชานุสาวรีย์ “พระบิดาแห่งฟุตบอลเมืองสยาม” เท่าพระองค์จริงประดิษฐาน ณ สนามหญ้าหน้าพระตำหนักทับแก้ว จังหวัดนครปฐม

อันเป็นสถานที่มีหลักฐานยืนยันการก่อเกิดปฐมบทที่นักประวัติศาสตร์การกีฬาเรียกว่า “ยุคทองของฟุตบอลเมืองสยาม” และในปัจจุบันสำนักพระราชวังอนุญาตให้ สปท.จัดแสดงเป็นพิพิธภัณฑ์คณะฟุตบอลแห่งสยาม มาตั้งแต่ พ.ศ.2550

โดยพระบรมราชานุสาวรีย์ดังกล่าว จะสร้างจากภาพที่ทรงฉายร่วมกับสโมสรกรมม้าหลวง ภาพเดียวที่ถูกค้นพบในขณะนี้ เพื่อเป็นการเทิดพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 6 พระมหากษัตริย์ผู้ทรงก่อตั้งทีมฟุตบอลของชาติสยาม

รวมทั้งสร้างขวัญกำลังใจให้กับนักฟุตบอลและเป็นแรงบันดาลใจของเยาวชน ที่จะมีสิ่งยึดเหนี่ยวจิตใจในการเล่นฟุตบอลเพื่อชาติเพื่อเกียรติภูมิของประเทศไทยสืบไป

ซึ่งในนามของทีมข่าว “กราวกีฬาไทยรัฐ” และคอลัมน์ “ตะลุยฟุตบอลโลก” ขอร่วมเป็นส่วนหนึ่งกับทาง สปท. ในการสร้างประวัติศาสตร์แห่งความภาคภูมิใจของวงการฟุตบอลไทย…ในครั้งนี้ครับ.

บี บางปะกง

ที่มา : https://www.thairath.co.th/