ได้เกือบ 6 ล้าน ตายายป้อนข้าวหน้าธนาคาร ขณะรอรับสิทธิ์เราชนะ (คลิป)
เห็นแล้วสะเทือนใจ คนไทยแห่บริจาคช่วยตายายแม่ลูก ป้อนข้าวกันระว่างรอลงทะเบียน “เราชนะ” หน้าธนาคารกรุงไทย ที่กำแพงเพชร ล่าสุดปิดบัญชีด้วยยอดเงินเกือบ 6 ล้าน เพียงพอต่อการยังชีพไปตลอดชีวิต นายอำเภอตั้งกรรมการจากหลายฝ่ายมาดูแล เพราะเงินมีจำนวนมาก
วันที่ 18 ก.พ.64 ผู้สื่อข่าวได้ไปที่ธนาคารกรุงไทย สาขาท่ามะเขือ (คลองขลุง) สาขาที่ “ตายาย 2 แม่ลูก” นางน้อย เอี่ยมสะอาด อายุ 81 ปี อยู่บ้านเลขที่ 77/1 ม.10 ต.วังไทร อ.คลองขลุง จ.กำแพงเพชร และนายจำเนียร เอี่ยมสะอาด อายุ 62 ปี ไปนั่งรอคิวลงทะเบียนโครงการ “เราชนะ” โดยออกจากบ้านมาตั้งแต่เที่ยง มาถึงธนาคารตี 4 หวังได้ 7 พันบาทไปประทังชีวิต จนต่อมาตายายหิวข้าวเพราะรอนาน ต้องป้อนข้าวเหนียวหมูกันระหว่างที่รอ และมีคนถ่ายคลิปไปโพสต์ กลายเป็นข่าวดังไปทั่วประเทศ
พบว่า วันนี้ นายภูวนาถ บุษบา ผู้จัดการธนาคาร ได้มีการเตรียมความพร้อมในการบริการกับประชาชนมากขึ้น โดยมีฝ่ายปกครองท้องถิ่นและผู้ใหญ่บ้านในพื้นที่มาร่วมกันดูแล ว่ามีปัญหาอย่างไรบ้าง ซึ่งก็ผ่านไปด้วยดี มีประชาชนมารอคิวกันตั้งแต่เช้าเช่นเคย
ส่วนที่บ้านของ “ตายาย” เช้าวันเดียวกัน ทางฝ่ายปกครองและเจ้าหน้าที่ นำโดย นายสดุดี พุทธัง นายอำเภอคลองขลุง ได้เข้าเยี่ยมพูดคุยพร้อมกับประสานทางธนาคารที่ได้มีการเปิดบัญชีรับบริจาคไปแล้วตั้งแต่เมื่อวานนี้ โดยมียอดโอนเข้ามาประมาณ 6 ล้านบาท ซึ่งน่าจะเพียงพอต่อความต้องการของทั้งสองแล้ว จึงเห็นว่าควรปิดรับบริจาค และจากนี้จะจัดการตั้งคณะกรรมการในหมู่บ้าน พร้อมคนในครอบครัว ในการบริหารจัดการเงินจำนวนนี้
นางเล็ก บุญทัศน์ อายุ 62 ปี น้องสาวแท้ๆ ของตาจำเนียร อยู่บ้านเลขที่ 210 ม.10 ต.วังไทร อ.เมือง จ.กำแพงเพชร เล่าว่า ตนเองเป็นคนดูแลทั้งสองคน ส่งข้าว ส่งน้ำอยู่ประจำ ซึ่งอย่างที่เป็นข่าวไปยอมรับว่ามีความลำบากจริงๆ หลังจากเป็นข่าวก็ต้องขอขอบคุณทุกหน่วยงานที่เกี่ยวข้องที่เข้ามาช่วยเหลือ และผู้ใจบุญทั่วประเทศที่ร่วมบุญครั้งนี้ คิดว่าเงินจำนวนนี้เพียงพอแล้วสำหรับทั้งสองคน
ขณะที่ นายล่อน พูลเลิศ อายุ 68 ปี เพื่อนบ้านที่อยู่ติดกัน กล่าวว่า เมื่อก่อนยายอยู่เพียงลำพัง ลูกหลานไปทำงานต่างจังหวัด มีเพียงน้องสาวดูแล ยอมรับว่าลำบากจริง และว่าเป็นบุญของสองแม่ลูก ที่สังคมให้ความช่วยเหลือในครั้งนี้
ทางด้าน นายสดุดี พุทธัง นายอำเภอคลองขลุง กล่าวว่า จากนี้ไปจะทำการแต่งตั้งคณะกรรมการจากหลายๆ ฝ่ายให้จัดการบริหารเงินอย่างคุ้มค่า สมกับที่ทุกคนทั่วประเทศได้ช่วยเหลือ โดยยอดเงินตอนนี้ยอดโอนก็เข้าสู่ 5 ล้านกว่าแล้ว ซึ่งมากพอที่จะใช้ในชีวิตประจำวัน โดยจากนี้จะดำเนินการดูแลบริหารเงินให้ตายายได้ประโยชน์มากที่สุด
“ขณะนี้ทางผู้เกี่ยวข้องเห็นว่ายอดเงินสูงมากพอแล้ว และขอปิดรับบริจาคเพียงเท่านี้ พร้อมจะจัดการบริหารเงินให้สองตายายใช้จ่ายอย่างคุ้มค่า”
ที่มา : https://www.thairath.co.th/