โฆษกศบค.ย้ำ เข้มงวดมาตรการกันโควิด-19 ใน 2 จังหวัด “สมุทรสาคร-กทม.”

โฆษก ศบค.ย้ำ มาตรการป้องกันโควิด-19 ยังต้องเข้มงวด ใน 2 จังหวัด คือ สมุทรสาคร กับ กทม. เหตุตัวเลขติดเชื้อยังสูง วอน ประชาชนอย่าตื่นตระหนก แต่ให้ตระหนัก หลังเปิดเรียนวันแรกเมื่อวาน พบโรงเรียนต้องถูกสั่งปิด หลังพบ นร.-นศ.ติดเชื้อ
วันที่ 2 ก.พ. นายแพทย์ทวีศิลป์ วิษณุโยธิน โฆษก ศบค. กล่าวว่า จ.สมุทรสาคร และ กทม.ยังต้องเข้มงวดในการตรวจโควิด-19 ในโรงงาน ขณะที่ประชุมเกี่ยวกับระบบแอปพลิเคชัน “ไทยชนะ” ที่ได้ติดตั้งอยู่ ห้างร้าน ต่างๆ แน่นอนว่าที่ผ่านมาก็ได้รับความร่วมมือดีมาก ต้องขอบคุณ กับร้านค้าต่างๆ อันนี้มีเป้าหมายให้คนใช้งานเพิ่มขึ้น อละ ตอนนี้ทีมงานกำลังนั่งประชุมทำงานกันอยู่ว่า เราติดตั้งระบบนี้แล้ว จะสามารถใช้งานได้จริง ไม่ใช่แค่เข้าไปดูว่า มีความเสี่ยงสีอะไรยังไงเท่านั้น ยืนยันเรากำลังทำการพัฒนาระบบอยู่ หากมีความคืบหน้าจะมารายงานให้ทราบ
Ads 2ส่วนคำถามว่า เมื่อวาน “เปิดเรียนวันแรก” แต่เรายังพบเจอ นร.-นศ.ติดโควิด-19 ป้องกันอย่างไร ไม่ให้เอาเชื้อเข้าไปติดในโรงเรียนนั้น นายแพทย์ทวีศิลป์ เชื่อว่า ทุกคนมีความเป็นห่วงเป็นใยทั้งสิ้น ภาพที่เห็นในสื่อคือ กลัวเปิดโรงเรียนและเด็กจะไปติดเชื้อ ทั้งนี้ กระทรวง ศธ. ได้มีการให้นโยบายไปแล้ว ก็ขึ้นอยู่กับสถานศึกษาจะเอาไปใช้ ร่วมกับพ่อ-แม่-ผู้ปกครอง ด้วย ที่สุดคือปิดเอาไว้ก่อนหากไม่มั่นใจ แต่การปิดสถานศึกษาไม่ได้เป็นสิ่งที่ดีที่สุด อย่างโรค “มือ เท้า ปาก” ที่เคยเกิดระบาดในโรงเรียนกันมา เจอก็ให้ปิดแล้วทำความสะอาด ไม่กี่วันก็เปิดกลับมาได้ โรคนี้ก็ไม่ได้เกิดอันตรายกับเด็กเล็กมากนัก ความตระหนักกับความตระหนก ต่างกันนะครับ
นายแพทย์ทวีศิลป์ กล่าวต่อว่า จังหวัดที่ยังต้องใช้มาตรการเข้มงวดตอนนี้ คือ จ.สมุทรสาคร และกทม. ยังต้องเข้มข้น ในการประกอบกิจการกิจกรรม ผ่อนคลายไปตามสถานการณ์ จะให้เข้มงวดมากกว่านี้ ก็จะกระทบกับประชาชนระดับรากหญ้า ดังนั้นก็จะเป็นไปได้ยาก เพราะฉะนั้น ความร่วมมือพี่น้องประชาชนเป็นสิ่งสำคัญ อย่าง จ.สมุทรสาคร แม้ตัวเลขจะติดเชื้อเพิ่มขึ้น แต่มันเกิดเฉพาะจุด ก็ยังสามารถควบคุมได้ เราใช้ยุทธศาสตร์การทำชุดกำแพงกั้นและให้อยู่ตรงนั้น แต่คนก็ไม่ใช่สิ่งของมีการเคลื่อนไหว เคลื่อนที่ ฉะนั้นคนเองก็ต้องรู้ว่า ไม่ควรเอาตัวไปอยู่ในจุดที่มีความเสี่ยงแพร่ระบาด
ที่มา : https://www.thairath.co.th/news/politic/2024500